วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เวลาอิมซาก กับการเริ่มต้นถือศีลอด

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ

เป็นที่ทราบดีตามหลักฟิกห์อิสลามว่า  การอะซานซุบฮินั้นอนุญาตให้มี 2 ครั้ง  กล่าวคืออะซานครั้งแรกนั้นเพื่อบอกเตือน  ส่วนการอะซานครั้งที่สองนั้นคือขณะที่แสงอรุณจริง (ฟะญัรศอดิก) ก็ถือว่าเข้าเวลาละหมาดซุบฮิแล้ว  และจำเป็นต้องอิมซากด้วยการหยุดรับประทานอาหารและสิ่งที่ทำให้เสียศีลอด ดังที่อัลกุรอานได้ระบุยืนยันไว้ว่า

وَكُلُواْ وَاشْرَبُواْ حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّواْ الصِّيَامَ إِلَى الَّليْلِ

"และท่านทั้งหลายจงกินและจงดื่ม  จนกว่าเส้นด้ายสีขาว  จากเส้นด้ายสีดำ  ของแสงอรุณจะปรากฏแก่พวกท่าน  จากนั้นให้พวกท่านจงถือศีลอดให้ครบถึงกลางคืนเถิด" อัลบะกอเราะฮ์ 187

คำว่าเส้นด้ายสีขาว  คือแสงอรุณจริงของกลางวัน  คำที่ว่าเส้นด้ายสีดำ  คือความมืดของเวลากลางคืน  คำที่ว่าแสงอรุณ  หมายถึงแสงอรุณที่ขอบฟ้าซึ่งเป็นสิ่งบ่งบกว่าสิ้นสุดเวลากลางคืนและเริ่ม เข้าสู่กลางวัน  ดังนั้นเมื่อแสงอรุณจริงขึ้นแล้ว แสดงว่าเข้าเวลาช่วงกลางวันแล้ว และเข้าเวลาอิมซากแล้วนั่นเอง

และฮะดิษที่มีการอะซานซุบฮิสองครั้งนั้น  ท่านอัลบุคอรีย์ได้รายงานด้วยสายรายงานของท่านถึงท่านอิบนุอุมัร จากท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  เขากล่าวว่า

‏أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏قَالَ ‏ ‏إِنَّ ‏ ‏بِلَالًا ‏ ‏يُؤَذِّنُ بِلَيْلٍ فَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّى يُنَادِيَ ‏ ‏ابْنُ أُمِّ مَكْتُومٍ ‏ ‏ثُمَّ قَالَ وَكَانَ رَجُلًا أَعْمَى لَا يُنَادِي حَتَّى يُقَالَ لَهُ أَصْبَحْتَ أَصْبَحْتَ ‏

"แท้จริงท่าน ร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  แท้จริงบิล้าลได้ทำการอะซานในช่วงกลางคืนอยู่  ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงกินและจงดื่มเถิด  จนกระทั่งอิบนุอุมมุมักตูมได้ทำการอะซาน หลังจากท่านได้กล่าวว่า  อิบนุอุมมุมักตูมเป็นชายตาบอด  ซึ่งจะทำการอะซานจนกว่าถูกบอกให้แก่เขาว่า ท่านอยู่ในเวลาซุบฮ์แล้ว  ท่านอยู่ในเวลาซุบฮ์แล้ว" รายงานโดยบุคอรีย์ (582)